User:P. Bunruk/sandbox
ผึ้งหลวง (Apis dorsata Fabr.)
[edit]
ผึ้งหลวง (Apis dorsata Fabr.) | |
---|---|
ผึ้งงานที่เกาะตามรวงรัง | |
Scientific classification | |
Kingdom: | |
Phylum: | |
Class: | |
Order: | |
Family: | |
Genus: | |
Subgenus: | (Megapis)
|
Species: | A. dorsata
|
Binomial name | |
Apis dorsata Fabricius, 1793
| |
Range of Apis dorsata |
บทนำ
[edit]ชีววิทยา
[edit]ผึ้งหลวง เป็นผึ้งชนิดหนึ่งที่มีขนาดตัวและรังใหญ่ที่สุด โดยลำตัวยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ลักษณะท้องเป็นปล้องสีเหลืองสลับดำ มีปีกแข็งแรง บินเร็ว มักพบอยู่ในป่าหรือตามชนบททั่วไป ซึ่งจะสร้างรังบนต้นไม้สูง หรือ ภายนอกอาคารบ้านเรือน ลักษณะรวงรังมีชั้นเดียว รูปครึ่งวงกลม ไม่มีที่ปกปิด ขนาดประมาณ 0.5-1 เมตร ลักษณะนิสัยของผึ้งหลวงจะดุและต่อยปวดกว่าผึ้งทุกชนิด เดือนเมษายนเป็นเดือนที่ผึ้งหลวงให้น้ำผึ้งดีที่สุด เรียกว่า น้ำผึ้งเดือนห้า[1]
ผึ้งหลวง มีรูปร่างลักษณะเช่นเดียวกับแมลงทั่วไป ตัวเต็มวัยมีโครงสร้างภายนอกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง
- ส่วนหัว มีอวัยวะรับความรู้สึก ประกอบด้วย ตา หนวด และปาก
- ส่วนอก มีอวัยวะในการเคลื่อนที่ คือ ปีกและขา
- ส่วนท้อง มีอวัยวะขับถ่าย อวัยวะสืบพันธุ์ เหล็กใน ต่อมผลิตไขผึ้ง และต่อมผลิตเฟอโรโมนนาซานอฟ[2]
ความสำคัญ
[edit]ผึ้งหลวง เป็นแมลงพาหะสำคัญที่ช่วยในการผสมเกสรของดอกไม้ และการกระจายพันธุ์ของพืชดอกนานาชนิด รวมทั้งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในภาคใต้ของไทย เช่น ดอกสะตอ เป็นต้น[3] เนื่องจากผึ้งหลวงมีพฤติกรรมการหากินที่สามารถบินได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร จึงสามารถช่วยให้เกิดการผสมข้ามต้น ลดภาวะความอ่อนแอของพันธุกรรมพืช จึงช่วยให้ป่าฟื้นคืนสภาพได้เร็วขึ้น เกิดพืชสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่พัฒนาปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมได้เสมอ[4] นอกจากนี้ ผึ้งหลวงยังให้น้ำผึ้ง ซึ่งใช้เป็นอาหาร รวมทั้งไขผึ้ง หรือ ขี้ผึ้ง ซึ่งใช้ทำเทียนเพื่อให้แสงสว่างอีกด้วย[5]
ความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการ
[edit]มิชเนอร์ เสนอว่า ผึ้งที่มีระบบสังคมแท้ วิวัฒนาการมาจากพวกผึ้งที่ชอบอยู่เดี่ยวๆ โดยผึ้งตัวเมียจะดูแลตัวอ่อนระยะหนึ่งเท่านั้น แล้วจะแยกออกไปหากินอิสระก่อนที่ตัวอ่อนจะเจริญเป็นตัวเต็มวัย ต่อมาได้เกิดวิวัฒนาการขึ้นอีกระดับหนึ่ง คือ ผึ้งที่อยู่เดี่ยวๆเพศเมียหลายตัวอาศัยอยู่ร่วมกันเพื่อออกลูกในบริเวณเดียวกัน เช่น พวกผึ้งกัดใบ ซึ่งมีพฤติกรรมช่วยกันดูแลตัวอ่อนและหาอาหาร เป็นต้น จากหลักฐานฟอสซิลชันโรงที่สหรัฐอเมริกา มีอายุประมาณ 80 ล้านปี ซึ่งอธิบายการเกิดวิวัฒนาการขึ้นเป็นลำดับจนถึงผึ้งสกุล Apis[6]
การปรับตัวเชิงวิวัฒนาการ
[edit]- ด้านพฤติกรรมการสร้างรัง
เนื่องจากรวงผึ้งหลวงสามารถบรรจุสารอาหารได้หลายอย่าง ทั้งไขมัน โปรตีนจากตัวอ่อนและละอองเรณู และคาร์โบโฮเดรตจากน้ำผึ้ง เป็นต้น จึงมีการป้องกันรังจากผู้ล่าโดยการสร้างรังในที่สูงและมีขนาดใหญ่ นอกจานนี้โครงสร้างของรวงรังและการสร้างหลอดรวง(cells) ก็มีการใช้ไขผึ้ง(wax) ซึ่งช่วยให้ความแข็งแรงเช่นกัน
- ด้านการคัดเลือกทางพันธุกรรม
ทำให้เกิดสังคม โดยการมีกลุ่มวรรณะที่มีจำนวนโครโมโซมเป็นแฮพลอยด์(n) ซึ่งก็คือ เพศผู้ และวรรณะที่เป็นดิพลอยด์(2n) คือ เพศเมีย ซึ่งเมื่อผสมพันธุ์แล้วจะวางไข่มีลูกออกมาได้หลายรุ่น เพศเมียรุ่นลูกจะช่วยเหลือแม่ในการดูแลตัวอ่อนรุ่นน้องๆต่อไปเป็นลำดับ จนมีวิวัฒนาการต่อไปถึงวรรณะทำงานของเพศเมียที่เป็นหมัน ทำหน้าที่เป็นกรรมกร(worker) ทำหน้าที่ทำงานเพียงอย่างเดียว และมีวรรณะสืบพันธุ์โดยเฉพาะ ทำหน้าที่สืบพันธุ์และวางไข่เท่านั้น
- ด้านสัณฐานวิทยา
มีการสร้าง Pollen basket ซึ่งเป็นอวัยวะพิเศษที่ใช้เก็บละอองเรณู ซึ่งช่วยให้เกิดการผสมข้ามต้นเมื่อบินไปยังดอกไม้ต้นอื่นๆได้ [7]
References
[edit]- ^ http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=15&chap=1&page=t15-1-detail.html
- ^ http://www.three-peaks.net/PDF/Anatomy%20of%20the%20Honey%20Bee.pdf
- ^ http://journals.cambridge.org/abstract_S0266467408005191
- ^ http://www.si.sit.kmutt.ac.th/pr/index.php?option=com_content&view=article&id=333:2012-05-23-08-50-35&catid=9:researchnews&Itemid=13
- ^ http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=15&chap=1&page=t15-1-detail.html
- ^ http://books.google.co.th/books?hl=th&lr=&id=aordrL_D-30C&oi=fnd&pg=PR11&dq=Michener,+1974+The+social+Behavior+of+the+bee&ots=PPWDaVj0wh&sig=dslFmal-L1SxX6jMv-VzvBv8FaM&redir_esc=y#v=onepage&q=Michener%2C%201974%20The%20social%20Behavior%20of%20the%20bee&f=false
- ^ http://books.google.co.th/books?hl=th&lr=&id=aordrL_D-30C&oi=fnd&pg=PR11&dq=Michener,+1974+The+social+Behavior+of+the+bee&ots=PPWDaVj0wh&sig=dslFmal-L1SxX6jMv-VzvBv8FaM&redir_esc=y#v=onepage&q=Michener%2C%201974%20The%20social%20Behavior%20of%20the%20bee&f=false